ระบบสารสนเทศ( IT )กับธุรกิจไปรษณีย์ไทย( ปณท.)
ปัจจุบันการนำระบบไอทีมาช่วยเสริมในการดำเนินธุรกิจถือว่ามีความสำคัญมากเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้การนำระบบไอทีเข้ามาช่วยเพื่อรองรับกับการบริการที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงกับโลกปัจจุบัน และเพื่อรักษารายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ไปรษณีย์ไทยจึงเปิดแผนกลยุทธ์ปีทางการมุ่งเน้นพัฒนาระบบไอที –ระบบปฏิบัติการ –พัฒนาบุคลากรรองรับธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจหลักเสริมสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น พร้อมเดินหน้าโลจิสโพสต์ มุ่งเน้นธุรกิจบริการอร่อยทั่วไทยที่ได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม( สสว.)คัดเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับตลาดในประเทศเพื่อนำมาให้บริการจัดจำหน่ายรวมถึงคัดเลือกสินค้าของเอสเอ็มอี(SME)มาวางขายทางเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทย ซึ่งไปรษณีย์ไทยจะบริการจัดส่งให้
สำหรับความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ครั้งนี้ไปรษณีย์ไทยยังมอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) ในการจัดส่งสินค้าแบบอีเอ็มเอส ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ 5% สำหรับผู้ที่ถือบัตรเอสเอ็มอี ฟลายอิ้ง คีย์การ์ดรวมทั้งให้เอสเอ็มอีซื้อแสตมป์อี -คอมเมิร์ซ เพื่อใช้ส่งไปรษณีย์แบบลงทะเบียนหนักไม่เกิน 1 และ 2 กิโลกรัม ในราคาลด 20% โดยความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยให้เอสเอ็มอีขยายตลาดเข้าสู่อาเซียนได้มากขึ้นกว่าปัจจุบัน ผ่านการจัดส่งของไปรษณีย์และการสั่งซื้อทางเว็บไซต์ของไปรษณีย์ เบื้องต้นเน้นผู้ประกอบการ 5ด้าน ได้แก่ สิ่งพิมพ์และสกรีน แฟชั่น เฟอร์นิเจอร์และหัตถกรรม อาหารแปรรูป และการท่องเที่ยวและจะรุกจับมือแบงก์ -ประกันภัย ร่วมธุรกิจให้บริการผ่านเคาน์เตอร์บริการทั่วประเทศ เร่งตั้งโครงการขนส่งสินค้าภาคการเกษตรกระจายสินค้าทั่วภูมิภาค มั่นใจรายได้ปีหน้าเติบโต 10-15%
นอกจากนี้บริษัท ไปรษณีย์ไทยได้เปิดเผยกับ “TRANSPORT” ถึงยุทธศาสตร์ทางไปรษณีย์ไทย ว่ามีแนวทางที่จะปรับเปลี่ยนแผนกลยุทธ์ใหม่แบบเชิงรุกเพื่อเข้ามาสนับสนุนธุรกิจหลักของไปรษณีย์จากการฝากธนาณัติและการส่งจดหมาย โดยการมุ่งเน้นพัฒนาระบบไอทีให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับแนวทางธุรกิจใหม่ด้านธุรกิจโลจิสโพสต์ หรือการขนส่งพัสดุที่มีขนาดใหญ่ ธุรกิจบริการอร่อยทั่วไทย และธุรกิจร่วมกับธนาคารพาณิชย์ผ่านเคาน์เตอร์บริการ รวมทั้งระบบปฏิบัติการและพัฒนาบุคลากร ทั้งนี้เนื่องมาจากว่าที่ผ่านมาไปรษณีย์ไทยจะสามารถขนส่งพัสดุที่มีขนาดเล็กไม่เกิน 30 กิโลกรัม ดังนั้นจึงมีไก้การพัฒนาขั้นตอนต่อไปที่จะทำให้ขนส่งพัสดุที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น เช่น รถจักยานยนต์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เป็นต้น ขณะเดียวกันในส่วนของระบบปฏิบัติการนั้นจะมีการพัฒนารถยนต์ขนาดเล็กที่สามารถส่งของตามเส้นทางในซอยที่มีขนาดเล็กแคบและการจราจรติดขัด เพื่อลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุจากการส่งของด้วยรถจักรยานยนต์ ตลอดจนลดความเสียหายของสิ่งของที่ขนส่งไปยังผู้ใช้บริการด้วย เหตุนี้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาระบบไอที และระบบปฏิบัติ การให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และในปีต่อมานี้เราจะมุ่งเน้นการใช้ระบบไอทีและระบบปฏิบัติการเพื่อรองรับธุรกิจใหม่ๆ เนื่องจากที่ผ่านมาระบบไอที และระบบปฏิบัติการเป็นจุดอ่อนของเราทำให้ไม่สามารถทำธุรกิจใหม่ได้จากที่ยังขาดตัวซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่จะมารองรับการให้บริการ หรือรองรับธุรกิจใหม่ เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาระบบ ซึ่งการพัฒนาระบบไอทีมีหลายอย่าง เช่นระบบจัดการสต๊อกสินค้า RFID ระบบ ERP และ TRACK&TRACE ระบบติดตามและตรวจสอบสิ่งของฝากส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งระบบนี้เป็นบริการสำหรับการติดตามและตรวจสอบสิ่งของที่มีการฝากส่งภายในประเทศไทยและระหว่างประเทศได้ จากที่ปัจจุบันใช้เป็นระบบ EMSอยู่ไปรษณีย์ไทยจะพัฒนาระบบไอทีทั้งหมดไปพร้อมๆ กัน ขณะที่ระบบ ERPนั้นคาดว่าจะใช้ระยะเวลาพัฒนาระบบแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดใช้เวลาโดยประมาณ 1 ปีครึ่ง
สำหรับการทำธุรกิจร่วมกับธนาคารพาณิชย์นั้นขณะนี้ไปรษณีย์อยู่ระหว่างการทดลองทำธุรกิจร่วมกับธนาคารกรุงไทยโดยทางไปรษณีย์มีความต้องการเปิดให้บริการทั่วประเทศ เพราะว่าปัจจุบันไปรษณีย์ไทยมีอยู่ทั่วประเทศประมาณ 3,000 แห่ง ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งในการทำธุรกิจด้านนี้เพื่อให้บริการประชาชน ส่วนแนวทางการให้บริการประกันภัยผ่านเคาน์เตอร์บริการนั้น อาจต้องดำเนินการเพื่อขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)โดยมีแนวทางการบริการให้กับบริษัทประกันภัยโดยทั่วไป ซึ่งเบื้องต้นจะมีการพิจารณาจากบริษัทประกันภัยที่มีความมั่นคงและความน่าเชื่อถือเพื่อป้องกันไม่ก่อให้เกิดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ปัจจุบันนี้การให้บริการผ่านทางไปรษณีย์โดยผ่านเคาน์เตอร์บริการมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้า ตลาดนัดสวนจตุจักร ไปจนถึงแหล่งชุมชนต่างจังหวัดทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายโดยเฉพาะผู้ที่ซื้อของแล้วไม่สามารถนำกลับเองได้ ไปรษณีย์ไทยจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งที่จะให้บริการด้วยความปลอดภัยและส่งของถึงบ้านได้เช่นกัน ดังนั้น ในอนาคตนอกจากการให้บริการผ่านทางเคาน์เตอร์แล้วยังมีโครงการที่จะจัดตั้งโมบายไปรษณีย์ไทยเพื่อเคลื่อนที่ไปให้มากขึ้น ซึ่งแนวทางอาจจะต้องมีการหาพันธมิตรร่วมทุนหรือจะลงทุนเอง ขณะเดียวกันนั้นเมื่อมีจุดให้บริการแล้วการหาพันธมิตรร่วมทุนยังเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจต่อไปอีกด้วย
นอกจากนี้ไปรษณีย์ไทยยังมีโครงการเพื่อการขนส่งสินค้าภาคการเกษตร เพื่อการกระจายสินค้าไปให้ทั่วถึงทุกภูมิภาคภายในประเทศ โดยได้มีการร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เพื่อจัดทำหน้าที่กระจายการขนส่งไปยังจุดจำหน่ายสินค้าต่างๆ ซึ่งขณะนี้ทางภาครัฐบาลเห็นด้วยในการจัดตั้งโครงการในครั้งนี้ เหลือแต่เพียงทำการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อทำแผนงาน โดยเบื้องต้นจะเริ่มจากสินค้าประเภทผลไม้ พืชผักสวนครัว ก่อนเป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบันเรามีศูนย์ไปรษณีย์ที่มีลักษณะเป็นเหมือนโกดังเก็บของที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณ 11 แห่ง ซึ่งสามารถเป็นจุดพักสินค้าได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นแนวทางที่จะร่วมมือกับธุรกิจต่างๆ ที่มีความต้องการกระจายสินค้าไปยังต่างจังหวัด เพื่อลดต้นทุนการขนส่งเพื่อหันมาใช้บริการจากไปรษณีย์ ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งเพื่อจะขยายธุรกิจและถือว่าเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและยังเป็นการเพิ่มรายได้ด้วย
สำหรับการบริหารต้นทุนในขณะนี้ไปรษณีย์ไทยไม่มีนโยบายในการสรรหาซื้อที่ดินและการซื้อตึกเพิ่มเติม แต่จะต้องหันมาใช้ระบบการเช่าแทน ซึ่งปัจจุบันไปรษณีย์ไทยมีโกดังสินค้าให้เช่ามากมายจึงไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างโกดังใหม่เพิ่มอีก ดังนั้นจุดนี้สามารถที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้มากขึ้นอีกด้วยเช่นกัน
แต่ถึงเราจะดำเนินธุรกิจเพิ่มมากขึ้นอย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักของไปรษณีย์ยังมุ่งเน้นการให้บริการประชาชนในการส่งจดหมาย ส่งพัสดุภัณฑ์ ธนาณัติ และสิ่งพิมพ์ ถึงแม้ว่าจะมีการเตรียมแผนการดำเนินการทำธุรกิจใหม่ ๆ ขึ้นมา ไปรษณีย์ยังคงมีแนวทางเพื่อไม่ให้ขัดแย้งกับธุรกิจเดิม เพราะเนื่องมาจากรายได้หลักของไปรษณีย์ไทยมาจากการขนส่งเป็นสำคัญ โดยเฉพาะธุรกิจโลจิสโพสต์และธุรกิจเคาน์เตอร์บริการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่ร่วมกับแบงก์ ธุรกิจที่ร่วมกับประกันภัย รวมถึงการสั่งของทางไปรษณีย์ด้วย
ระบบ ERP และ TRACK&TRACE ถือเป็นระบบที่เพิ่มความสะดวกและเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ที่ใช้บริการส่งสินค้าเพราะสามารถตรวจสอบได้ว่าตอนนี้สินค้าที่เราส่งไปถึงมือผู้รับยัง ไม่ต้องมาคอยกังวลเพราะเมื่อก่อนถ้าหากมีปัญหาอะไรก็ต้องเดินทางมาสอบถามที่ไปรษณีย์ เดี่ยวนี้ เราสามารถเช็คจากอินเตอร์เน็ตได้สะดวกจริงๆ
ตอบลบระบบERP เเละ TRACK&TRACE ทำให้สะดวกเเละสามารถตรวจสอบได้ด้วยว่าของเราถึงปณ.ไหนสะดวกมั่นใจได้ดีจริง
ตอบลบปัจจุบันการส่งจดหมายหรือพัสดุทางไปษณีย์นี้ มีความสะดวกสะบายมากยิ่งขึ้น ไช้เวลาแค่ไม่กี่วันก็ได้รับจดหมายแล้ว อีกอย่างไม่ต้องกังวลว่าจดหมายหรือพัสดุจะหาย เพราะมีการตวจสอบจากระบบติดตามและตรวจสอบสิ่งของฝากส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งระบบนี้เป็นบริการสำหรับการติดตามและตรวจสอบสิ่งของที่มีการฝากส่งภายในประเทศไทยและระหว่างประเทศได้
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบการจัดบทความดูเรียบง่ายน่าอ่าน เนื้อหาเป็นการชี้ให้เห็นว่าไปราณีย์ได้นำระบบ ระบบ ERP และ TRACK&TRACE มาใช้ทำให้เพิ่มความสะดวกสะบายแก่ลูกค้าประชาชนเป็นอย่างมากเพิ่มความมั่นใจในการใช้บริการจากระบบเดิมที่มีความสะดวกไม่มากพอ แต่เมื่อเพิ่มเทคโนโลยีเข้าไปทำให้ระบบน่าใช้งาน มาก ต่อไปนี้ เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานก็แค่ตรวจสอบจากเว็บไซต์ การส่งสิ่งของก็สามารถทราบได้ว่าถึงมือผู้รับหรือยัง
ตอบลบเนื้อหาดี การจัดเรียงยังไม่ค่อยดีนัก ขอรูปภาพด้วยครับ *-*
ตอบลบก็ดีตรงที่ว่า การเอา IT มาใช้ ช่วยให้เราสามารถทำงานได้สะดวกและและรวดเร็ว แถมยังช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน
ตอบลบตัวอักษรค่อนข้างเล็ก หากนำภาพเข้ามาประกอบกับเนื้อหายิ่งทำให้บทความดูน่าสนใจยิ่งขึ้น
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบมีเนื้อหาค่อนข้างดี น่าจะเพิ่มรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับบทความ
ตอบลบเนื้อหาเยอะดี น่าสนใจ
ตอบลบการจัดเนื้อหาดูเป็นเรียบร้อยดี ได้รู้มากขึ้นเกี่ยวกับักษณะการทำงานของ
ตอบลบไปรษณีย์ไทย แต่น่าจะมีรูปทำให้น่าสนใจมากขึ้น
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบไปรษณีย์มีการพัฒนาการดี ทำให้สะดวก รวดเร็วดีค่ะ
ตอบลบเนื้อหาดูแล้วทำให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับไปรษณีย์ที่สามารถใช้ควบคู่กับสารสนเทศได้ดีแต่น่าจะมีรูปภาพประกอบบ้างเล็กน้อย
ตอบลบเนื้อหาดี การจัดเรียงยังไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ดีที่เอาเนื้อการเอา IT มาใช้ ช่วยให้เราสามารถทำงานได้สะดวกและและรวดเร็ว
ตอบลบน่าจะมีรูปด้วย ส่วนเนื้อหาอ่านแล้วก็ได้ความรู้เพิ่มเกี่ยวกับการทำงานของไปรษณีย์
ตอบลบเนิ้อหาน่าสนใจดี ทำให้รู้ระบบสารสนเทศมากขึ้น แต่ควรเพิ่มเติมสีสันและรูปภาพ จะได้ดูน่าสนใจมากขึ้น
ตอบลบเนื้อหาน่าสนใจค่ะ แต่น่าจะเพิ่มรูปภาพประกอบลงในเนื้อหา
ตอบลบเนื้อหาไม่เยอะมากเกินไป ทำให้ไม่น่าเบื่อ ถ้ามีรูปภาพประกอบจะสวยงามมากขึ้น
ตอบลบเนื้อหาในบทความค่อนข้างดี ทำให้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมค่อนข้างเยอะค่ะ
ตอบลบถ้าบทความนี้จะน่าสนใจมากขึ้น ถ้ามีรูปภาพมาประกอบในบทความนะค่ะ
จะทำให้น่าสนใจมากเลยค่ะ
เนื้อหาสาระดีคะ จัดรูปแบบก็ดูสะอาดตามากคะเป็นระเบียบเรียบร้อยดีคะ
ตอบลบเนื้อหาดีครับแต่ไม่มีรูปนะเลยไม่น่าสนใจมากนัก
ตอบลบเนื้อหาดี แต่ไม่มีรูปภาพประกอบเนื้อหาเลย ย่อหน้าไม่เท่ากัน เว้นวรรคไม่สวยงาม
ตอบลบเนื้อหาดีมากเลยค่ะ
ตอบลบแต่ขาดรูปภาพประกอบไปนิดนึง
เนื่อหาดีแต่ก็ต้องมีรูปประกอบหน่อย
ตอบลบเนื้อหา ไม่ควรเหมือนบทท่องจำนะครับ
ตอบลบเหมือนคัดลอก มาวางเอาไว้ ควรจะนำมาสรุป เป็นความคิดของตนเองจะดีกว่านะ
เนื้อหาดีอ่านแล้วก็เข้าใจแต่น่าจะมีรูปภาพประกอบเพื่อให้เนื้อเรื่องอ่านแล้วเข้าใจง่ายขึ้น
ตอบลบเรียบง่ายดีค่ะ
ตอบลบแต่น่าจะเพิ่มมีสีสันหรือรูปภาพประกอบด้วย
เนื้อหาดี อ่านแล้วมีประโยชน์ทำให้เราทราบว่าไปรษณีย์ของไทยนำระบบสารสนเทศมาใช้กับองค์กรในด้านใดบ้าง เพื่อที่จะให้บริการแก่ลูกค้าด้วยความสะดวกและรวดเร็ว
ตอบลบอ่านแล้วได้ประโยชน์ค่ะ เนื้อหาดี ทำให้รู้ว่าไปรษณีย์ได้นำระบบสารสนเทศมาประยุกต์ใช้กับหน่วยงาน ทำให้สะดวก รวดเร็วมากขึ้น ส่วนรูปแบบเนื้อหาน่าจะมีรูปภาพประกอบด้วย
ตอบลบเนื้อหาดี อ่านเข้าใจง่ายดีค่ะ
ตอบลบแต่น่าจะมีสีสันกว่านี้นะค่ะ
ไม่มีรูปภาพประกอบเลยค่ะ
ตอบลบเนื้อหาเยอะดีค่ะ
เนื้อหาเยอะค่ะ แต่ไม่มีสีสัน ไม่มีรูปภาพประกอบเลย
ตอบลบการเว้นวรรคระหว่างประโยคยังไม่สวยงาม
ตอบลบไม่มีรูปภาพประกอบเลย สีสันก็ไม่มีด้วยค่ะ
เนื้อหาไม่เป็นคำพูดตัวเอง ตัวหนังสือเล็กมาก
ตอบลบไม่มีสีสัน น่าจะมีรูปภาพบ้าง
เนื้อหาเป็นประโยชน์มาก แต่อ่านยากเนื้อหาเยอะ ควรสร้างจุดเด่นให้กับบทความมากขึ้นค่ะ
ตอบลบเนื้อหาดีทำให้เรารู้จัก ไปรษณีย์ไทยมากขึ้น การจัดเรียงดี
ตอบลบเนื้อหาอ่านแล้วได้ความรู้มาก เนื้อหาดี
ตอบลบเนื้อหาอ่านแล้วได้ประโยชน์เป็นอย่างดี แต่ตัวหนังสือตัวเล็กเกินไป และไม่มีรูปภาพประกอบเลยค่ะ
ตอบลบเนื้อหามีเนื้อาสาระดี แต่ขาดสีสันในการตกแต่ง
ตอบลบได้ความรู้เพิ่มมาอีกหนึ่ง น่าสนใจดี
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบบทความน่าสนใจดี แต่น่าจะมีรูปภาพประกอบด้วย ช่วยให้เข้าใจมากขึ้น
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบบทความนี้ เป็นประโยนข์ต่อผู้อ่านมาครับ และทำให้ทราบถึง การทำงานของ องค์กร นี้มากขึ้น
ตอบลบเนื้อหาน่าสนใจเป็นความรู้ใหม่ครับ แต่ตัวหนังสือต้องปรับปรุงหน่อยนะครับ อ่านยาก เหมือนกีอปมา
ตอบลบเนื้อหาน่าสนใจมากเลยทำให้รู้ระบบการทำงานของไปรษณีย์ไทยมากขึ้น
ตอบลบเนื้อหาน่าสนใจมาก ทำให้รู้ระบบการทำงานของไปรษณีย์ไทยมากขึ้น
ตอบลบน่าจะมีสีสัน
เนื้อหาดี แต่น่าจะเพิ่มรูปและสีพื้นหลังจะได้น่าสนใจยิ่งขึ้น
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบเนื้อหาดีค่ะครบถ้วนดีค่ะแต่การตกแต่งไม่โดดเด่นเท่าไหร่ควรมีสีพื้นหลังและข้อความเพื่อเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น
ตอบลบเนื้อหาดูแล้วทำให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับไปรษณีย์ที่สามารถใช้ควบคู่กับสารสนเทศได้ดีแต่น่าจะมีรูปภาพประกอบบ้างเล็กน้อย
ตอบลบเนื้อหาดีค่ะทำให้ได้รับความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้น...
ตอบลบแต่บล็อกดูเรียบเกินไปไม่มีอะไรโดดเด่นน่าจะหารูปเสริมบ้างเพื่อดึงดูดใจคนอ่านค่ะ
เนื้อหาดีคะ แต่ตัวอักษรติดกันเกินไป อ่านแล้วตาลายคะ
ตอบลบเนื้อหาดีนะค่ะ ได้ความรู้ดี
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบเนื้อหาดีแต่เยอะมาก และถ้ามีรูปประกอบจะดีมากเลย
ตอบลบเนื้อหาดีนะคะ อาจจะเยอะไปหน่อย ถ้ามีรูปเพิ่มก็ดีนะคะ
ตอบลบตัวอักษรเล็กมากเนื้อหาใช้ได้
ตอบลบตัวอักษรน่าจะมีสีสันมากกว่านี้
เนื้อหาอ่านยาก น่าจะสรุปใจความที่เข้าใจง่าย แน่ก็ดีเหมือนกันที่เอาITกับไปรษณีย์มาอยู่ด้วยกัน รวดเร็วทันใจดี
ตอบลบตัวหนังสือเยอะไป ขาดความสนใจในการอ่านเท่าที่ควร น่าจะมีภาพประกอบจะเพิ่มความน่าสนใจได้มากขึ้น
ตอบลบไม่มีการแยกหัวข้อ ทำให้อ่านได้ยาก
ตอบลบแล้วก็ไม่มีรูปภาพประกอบ
แต่โดยรวมถือว่าดีครับ เพราะว่าเป็นบทความแรก
เนื้อหาเยอะ อ่านเข้าใจยากไปนิด
ตอบลบ